top of page
Search

10 ปัญหาที่เจ้าของบ้านมักจะละเลยก่อนที่จะเริ่มงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน

1. ไม่ได้คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานในระยะยาว (Future-Proofing)


เจ้าของบ้านมักออกแบบตามความต้องการในปัจจุบัน แต่ลืมคิดถึงการใช้งานใน 3-5 ปีข้างหน้า เช่น:

  • ตู้เสื้อผ้า: ไม่ได้เผื่อช่องเก็บผ้าห่มขนาดใหญ่ หรือไม่ได้เผื่อช่องสำหรับชุดที่ต้องแขวนยาวขึ้นเมื่อมีสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้น

  • ชั้นวางทีวี/โต๊ะทำงาน: ไม่ได้เผื่อช่องสำหรับวางเครื่องเกมคอนโซล หรืออุปกรณ์ทำงานใหม่ๆ ที่อาจจะเพิ่มมาในอนาคต


2. ละเลยการวางแผนงานระบบไฟฟ้าและประปาที่ซ่อนอยู่


บิ้วอินที่ดีต้องผนวกเข้ากับงานระบบอย่างแนบเนียน แต่หลายคนไม่ได้กำหนดตำแหน่งปลั๊ก สวิตช์ หรือจุดเดินสายไฟ/ท่อประปาให้สอดคล้องกับแบบบิ้วอินตั้งแต่แรก ทำให้:

  • ปลั๊กไฟ: ถูกบิ้วอินบังไปทั้งแผง หรือปลั๊กอยู่สูง/ต่ำจนเกินไปเมื่อใช้งานจริง

  • ช่องสายไฟ: ไม่มีช่องร้อยสายไฟที่เพียงพอสำหรับซ่อนสายเคเบิล ทำให้ต้องเจาะรูเพิ่มหรือมีสายไฟห้อยรกรุงรัง


3. ไม่ได้ตรวจสอบวัสดุกันชื้น/กันปลวกในพื้นที่เสี่ยง


เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มองที่ความสวยงามของผิวภายนอก (ลามิเนต, เมลามีน) แต่ละเลยวัสดุโครงสร้างภายใน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอย่าง:

  • ครัว: ไม่ได้ระบุให้ใช้ ไม้อัดทนความชื้น (HMR) หรือพลาสวูด ในส่วนที่ต้องสัมผัสน้ำ ทำให้เกิดอาการบวมในระยะเวลาอันสั้น

  • พื้นติดผนัง: ไม่ได้ป้องกันหรือฉีดน้ำยากันปลวกบริเวณที่ตู้บิ้วอินติดกับพื้น/ผนัง


4. ไม่ได้กำหนดตำแหน่งและขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนทำแบบ


การบิ้วอินที่ผิดพลาดที่สุดคือการออกแบบตู้พอดีเป๊ะ แต่ลืมคำนึงถึงขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าจริงที่จะซื้อมาใส่ภายหลัง เช่น:

  • ตู้เย็น: ลืมเผื่อระยะเปิด-ปิดประตู, ช่องระบายความร้อนด้านหลัง/ด้านบน หรือขนาดความลึก

  • เตาอบ/ไมโครเวฟ: ไม่ได้กำหนดขนาดหน้ากว้างและหน้าสูงที่แน่นอนตามรุ่นที่ต้องการ ทำให้ติดตั้งไม่ได้หรือเหลือช่องว่างดูไม่สวยงาม


5. วัดขนาดพื้นที่เองแบบผิวเผินและไม่ละเอียด


การบิ้วอินต้องวัดขนาดพื้นที่จริง (On-Site Measurement) ที่แม่นยำมาก แต่เจ้าของบ้านหลายคนให้ขนาดคร่าวๆ แก่ผู้ออกแบบ หรือไม่ได้ตรวจสอบว่าช่างวัดเผื่อความเอียงของพื้น/ผนังหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้:

  • เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งไม่ได้ ต้องมีการตัดแก้หน้างาน (ซึ่งงานจะเนี๊ยบน้อยลง)

  • เกิด ช่องว่าง ระหว่างเฟอร์นิเจอร์กับผนังที่ต้องมานั่งโป๊วหรือยาแนวเพิ่ม


6. เลือกผู้รับเหมาโดยพิจารณาจากราคาที่ถูกที่สุดเท่านั้น


การจ้างช่างที่ให้ราคาต่ำที่สุดโดยไม่ได้ตรวจสอบ ผลงานเก่า สเปควัสดุที่ใช้จริง และ ความน่าเชื่อถือ มักจะนำไปสู่:

  • งานติดตั้งหยาบ: รอยต่อไม่เนียน, บานพับฝืด, หน้าบานตก

  • การทิ้งงาน: ผู้รับเหมาหายตัวไปกลางคันเมื่อได้รับเงินงวดแรกๆ

  • ใช้วัสดุเกรดต่ำ ที่มีอายุการใช้งานสั้น


7. ลืมกำหนด "ฮาร์ดแวร์" ที่มีคุณภาพในสัญญา


ฮาร์ดแวร์ เช่น บานพับ รางลิ้นชัก และ มือจับ คือหัวใจของฟังก์ชันการใช้งาน หากใช้ฮาร์ดแวร์ราคาถูก (มักเกิดจากผู้รับเหมาตัดงบ) จะทำให้:

  • ลิ้นชักไม่ลื่นไหล หรือ ระบบ Soft-close (แบบปิดนุ่มนวล) เสียเร็ว

  • บานประตูตก หรือเปิดปิดลำบากภายใน 1-2 ปีแรก


8. ไม่ได้คิดเรื่อง "แสงไฟ" ภายในตู้หรือชั้นวาง


แสงไฟช่วยเพิ่มมิติและความสวยงามให้บิ้วอิน แต่เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จะคิดแค่ไฟหลักในห้อง และลืม ไฟซ่อนในตู้เสื้อผ้า หรือ ไฟส่องชั้นวางของ ทำให้ตู้ดูมืดทึบ ไม่สวยงามตามแบบใน Pinterest หรือต้องมาเดินไฟเพิ่มภายหลังซึ่งยุ่งยาก


9. ไม่ได้ขอเอกสารสำคัญ (BOQ และแบบ 2D/3D) ที่ชัดเจน


หลายคนตกลงด้วยวาจา หรือดูแค่ภาพ 3D สวยๆ แต่ไม่ได้ขอเอกสารสำคัญที่ใช้ในการอ้างอิงและควบคุมงาน:

  • BOQ (Bill of Quantities): รายการระบุสเปควัสดุและปริมาณที่ชัดเจน (เช่น ไม้อัดกันชื้น, ลามิเนตยี่ห้อ...)

  • แบบ 2D (Production Drawing): แบบที่มีมิติการตัด การเจาะ และตำแหน่งบานพับที่แม่นยำสำหรับช่างผลิต


10. ลืมวางแผนการเคลียร์พื้นที่/การขนส่งในคอนโดมิเนียม


สำหรับเจ้าของคอนโดมักจะละเลยขั้นตอนการขออนุญาตทำงาน (Permit) และการขนย้ายวัสดุ:

  • ไม่ได้แจ้งนิติบุคคล: ไม่ได้ขออนุญาตตกแต่งหรือวางเงินประกันความเสียหาย ทำให้ช่างไม่สามารถเข้าทำงานได้

  • เวลาทำงาน: ช่างต้องทำงานเฉพาะในเวลาที่นิติฯ กำหนด และต้องใช้ลิฟต์ขนของ ซึ่งอาจทำให้ตารางงานล่าช้ากว่าที่คาดไว้มาก

 
 
 

Comments


 

© 2025 Copyright Reserved by SC Craft Company Limited

 

bottom of page